ครอบครัวต้องคำสาปให้นอนไม่หลับ
ffi โรค เมื่อคนในครอบครัวต้องคำสาปที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้กันแน่…? วันนี้ Agnos Strange Medical Case ขอเสนอ
“คำสาปโรคนอนไม่หลับ ครอบครัวของซิลวาโน”
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชายอายุ 53 ปี นามว่า ซิลวาโน (Silvano) ที่อยู่ในงานเต้นรำบนเรือสำราญ เขาสังเกตเห็นว่า เสื้อของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ด้วยความประหลาดใจและกังวล เขารีบเดินเข้าห้องน้ำเช็คความเรียบร้อยของตัวเอง ทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นว่า รูม่านตาทั้งสองข้างของเขา หดเล็กลงมาก ถึงขนาดที่เหลือเพียงหัวเข็มหมุดเท่านั้น เงาสะท้อนในกระจกของตัวเองนั้น ทำให้เขานึกถึงคุณพ่อและน้องสาว ที่มีอาการลักษณะเดียวกัน ตอนที่พวกเขาเริ่มป่วยเป็นโรคประหลาด
ซิลวาโนรู้อยู่แก่ใจดีว่า คำสาปของตระกูล ได้ตกมาถึงเขาแล้วในวัย 53 ปี…
หลังจากนั้นต่อมา เขาเริ่มมีอาการสั่น ร่างกายอ่อนแอ และอาการท้องผูก แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ เขาสูญเสีย ‘ความสามารถในการนอนหลับ’ ซิลวาโนไม่สามารถหลับได้ ซึ่งถึงหลับก็หลับไม่สนิท
เวลาผ่านไปหลายเดือน ด้วยร่างกายที่ทรุดโทรมและเรื่องราวที่ผ่านมาในครอบครัวของเขา ทำให้เขารู้ว่า คำสาปนี้กำลังจะจบลงด้วยความตาย
ซิลวาโนไปขอความช่วยเหลือจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนอน ที่ University of Bologna ประเทศอิตาลี เพื่อให้หน่วยงานได้ศึกษาและช่วยเขาจากคำสาปการนอนไม่หลับ ซิลวาโนได้บอกว่า หากเขาเป็นแบบนี้ไปอีกซัก 8 หรือ 9 เดือนเขาต้องตายแน่ เมื่อทีมงานถามว่าเขาแน่ใจได้ยังไง เขาตอบว่า คุณหมอที่เขาได้ปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์บอกเขามาแบบนี้ นอกจากนั้น ซิลวาโน ยังสามารถไล่ชื่อของคนในครอบครัวที่มี อาการโรคนอนไม่หลับขั้นรุนแรงเหมือนเขาได้อีกด้วย
เหตุการณ์เป็นไปตามที่ซิลวาโนทำนายไว้ เขาได้เสียชีวิตลงในเวลาไม่ถึง 2 ปี เขาตัดสินใจทิ้งร่างกายไว้ให้กับแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ ด้วยความหวังที่ว่า สักวันหนึ่ง คำสาปนี้จะถูกทำลายลงได้ด้วยวิทยาศาสตร์
ภาพของซิลวาโน 2 เดือนก่อนเสียชีวิตจากสารคดี Something’s killing me
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในสมองและร่างกายของผู้ที่ต้องคำสาปเหล่านี้กันนะ? หรือเรื่องนี้วิทยาศาสตร์เอง ก็ไม่สามารถแก้ไขได้?
สิ่งที่ซิลวาโนและครอบครัวเชื่อว่าเป็นคำสาปนั้น แท้จริงแล้วเป็นโรคที่มีชื่อว่า Fatal Familial Insomnia (FFI) หรือ โรคนอนไม่หลับมรณะ เป็นโรคร้ายที่สามารถสืบทอดทางพันธุกรรมได้ โรคนี้ได้เป็นที่ถกเถียงมากมายในวงการแพทย์ว่า หากผู้ป่วยถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้แล้ว แพทย์ควรจะบอกสมาชิกคนอื่นในครอบครัวด้วยหรือไม่ เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ นั่นก็หมายความว่า สมาชิกคนอื่น ก็อาจตายจากการไม่ได้นอนได้เหมือนกัน
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง คุณอยากจะรู้ชะตากรรมของตัวเองรึเปล่า?
ครอบครัวของซิลวาโนเองเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาตลอด จนกระทั้ง เขาได้เปิดเผยให้กับ นักเขียน DT MAX ที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับครอบครัวของเขา และ DT MAX ต้องการที่จะตามหา “Patient Zero” หรือ ผู้ป่วยหมายเลข 0
**ผู้ป่วยหมายเลข 0 (patient zero) มักใช้อ้างอิงถึงบุคคลแรกที่ติดเชื้อไวรัสในการระบาด**
โดย DT MAX ค้นพบว่าผู้ต้องคำสาปคนแรก อาจสามารถย้อนไปไกลได้ถึงศตวรรษ์ที่ 18 เมื่อแพทย์ชาวเวนิส ที่มีอาการมึนงงและเป็นอัมพาตและได้เสียชีวิตลง ไม่นานหลังจากนั้น คนในครอบครัวของเขาที่มีชื่อว่า จูเซปเป้ (Giuseppe) ก็ถูกคำสาปนี้เล่นงาน และส่งต่อไปยังลูกหลานของเขาเรื่อยมาหลายต่อหลายรุ่น จนกระทั่งถึง ปิเอโตร (Pietro) คุณพ่อของซิลวาโนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเอง
แม้จะมีการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวมากมายจากคำสาปโรคนอนไม่หลับนี้ แต่สมาชิกในครอบครัว ก็หลีกเลี่ยงการพูดถึงสิ่งนี้เรื่อยมา เพราะพวกเขากลัวว่า หากพูดถึงมัน อาจยิ่งทำให้คำสาปนี้ ส่งผลอันตรายมากขึ้นต่อครอบครัวของพวกเขา จนกระทั้งเมื่อปี 1980 ที่ ซิลวาโนเริ่มมีอาการ สามีของหลานสาว ที่มีชื่อว่า Ignazio Roiter ที่เป็นทั้งคุณหมอและนักวิทยาศาตร์ พยายามเกลี้ยกล่อมซิลวาโน ให้ไปเยี่ยมคลินิกการนอนชื่อดังของ Elio Lugaresi ที่มหาวิทยาลัย Bologna
พวกเขาสองคนพยายามหาทางรักษาซิลวาโนอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับช่วยซิลวาโนและสมาชิกในครอบครัวอีกสองคนไม่ได้เลย
แต่ความพยายามของพวกเขาก็ไม่ได้สูญเปล่าไปซะทีเดียว จากการตรวจสอบอย่างละเอียด ทำให้พวกเขาพบต้นกำเนิดของคำสาป นั่นก็คือ ความผิดปกติของโปรตีนในสมองที่มีชื่อว่า พรีออน (Prions) ซึ่งเกิดจากการกลายพันธ์ุทางพันธุกรรมที่เป็นพิษต่อเซลล์ประสาท และด้วยเหตุผลบางอย่าง มันจะเกิดขึ้นในวัยกลางคนเท่านั้น
แต่หลังจากการวิจัยหลายปี นักวิทยาศาสตรก์ก็สามารถอธิบายคำสาปนี้ได้ว่า ทำไมความเสียหายต่อเนื้อเยื่อประสาทเพียงเล็กน้อยนี้ ทำให้เกิดกลุ่มอาการที่น่าพิศวงได้ โดยหากอธิบายง่ายๆคือ สมองของเราจะควบคุมและตอบสนอง สิ่งต่างๆแบบอัตโนมัติ เช่น การควบคุมอุณหภูมิ ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ และการปล่อยฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายทำงานได้ปกติและมีประสิทธิภาพ แต่ถ้ามันพังล่ะจะเกิดอะไรขึ้น? ทุกอย่างจะวุ่นวายและไม่สามารถควบคุมได้ เหมือนกับว่าระบบทำความร้อนในร่างกายของคุณพัง ท่อน้ำรั่ว หน้าต่างแตกและเปิดกว้าง สิ่งเหล่านี้จึงอธิบาย อาการเริ่มแรกของซิลวาโน่ ที่มีเหงื่อโชก รูม่านตาหดเล็ก และท้องผูกนั่นเอง
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการนอนไม่หลับล่ะ?
เมื่อสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถควบคุมได้ ร่างกายของเรา ก็จะไม่สามารถเตรียมตัวสำหรับการนอนหลับได้ เช่น หากร่างกายไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ หากต่ำจนเกิดไป ร่างกายก็จะกระตุ้นให้ตื่นตัว เพื่อให้ความดันโลหิตคงที่นั่นเอง นอกจากนั้นสมองก็จะส่งคลื่นไฟฟ้าที่ไปกระตุ้นสิ่งต่างๆในร่างกายอยู่เสมอและจะสงบลงเมื่อเราหลับ เหมือนกับสวิตช์ที่สามารถเปิด ปิด หรือหรี่ไปได้ แต่ผู้ป่วย FFI นั้นไม่มีสวิตช์ที่สามารถหรี่ได้ สิ่งนี้จึงเปิดไว้อยู่เสมอ และทำให้พวกเขาไม่สามารถนอนหลับได้นั่นเอง
ได้มีการทดลองใช้ยามากมาย กับครอบครัวที่เผชิญคำสาปนี้ แต่ปัญหาใหญ่ที่เป็นอุปสรรคในการทำทดลองนี้คือ ความกังวลเรื่องชะตากรรมของพวกเขาว่า พวกเขาจะตายเมื่อไหร่
ถึงแม้การทดลองจะมีความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ แต่สิ่งนี้ก็ยังเป็นข้อถกเถียงในวงการแพทย์เรื่องจริยธรรมอยู่เสมอมา
บางคนในครอบครัวที่มีประวัติการเป็นโรคนี้ หรือเป็นโรคนี้เอง ก็สามารถอยู่ได้ถึงอายุ 80 ปี และไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทำไมยีนต้องคำสาป ถึงไม่ได้ถูกปลุกขึ้นมา
ถึงแม้หลายๆครอบครัวจะมีความกังวลและกลัวผลที่ออกมา แต่พวกเขาก็พร้อมจะเดิมพันกับการรักษาครั้งนี้ เพื่อที่จะตัดยีนคำสาปนี้ออกไปให้พ้นจากครอบครัวของพวกเขานั่นเอง
อ้างอิง
https://www.bbc.com/future/article/20160118-the-tragic-fate-of-the-people-who-stop-sleeping