บทสวดมนต์แผ่เมตตาให้ตัวเองและเจ้ากรรมนายเวร
ในหนังสือกฎแห่งกรรม เล่ม ๔ เรื่อง แก้กรรมด้วยการกำหนด และหนังสือกฎแห่งกรรมเล่ม ๙ เรื่อง ทำความดีนี้แสนยาก ซึ่งเรียบเรียงจากคำสอนของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม (พระธรรมสิงหบุราจารย์) ได้กล่าวถึงการอธิษฐานจิตเพื่อแก้กรรม การท่องบทสวดมนต์แผ่เมตตาไว้ โดยมีใจความดังนี้
‘ การสวดมนต์เป็นนิจนี้ มุ่งให้จิตแนบสนิทติดในคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ จิตใจจะสงบเยือกเย็นเป็นบัณฑิต มีความคิดสูง ทิฎฐิมานะทั้งหลายก็จะคลายหายไปได้ เราจะได้รับอานิสงส์เป็นผลของตนเองอย่างนี้จากสวดมนต์เป็นนิจ’
‘การอธิษฐานจิตเป็นประจำนั้น มุ่งหมายเพื่อแก้กรรมของผู้มีกรรม จากการกระทำครั้งอดีตที่เรารำลึกได้ และจะแก้กรรมในปัจจุบันเพื่อสู่อนาคต ก่อนที่จะมีเวรมีกรรม ก่อนอื่นใด เราทราบเราเข้าใจแล้ว โปรดอโหสิกรรมแก่สัตว์ทั้งหลาย เราจะไม่ก่อเวรก่อกรรมก่อภัยพิบัติ ไม่มีเสนียดจัญไรติดตัวไปเรียกว่า เปล่า ปราศจากทุกข์ ถึงบรมสุข คือนิพพานได้ เราจะรู้ได้ว่ากรรมติดตามมา และเราจะแก้กรรมอย่างไร ในเมื่อกรรม ตามมาทันถึงตัวเรา เราจะรู้ตัวได้อย่างไร เราจะแก้อย่างไร เพราะมันเป็นเรื่องที่แล้วๆ มา’
‘การอโหสิกรรม หมายความว่า เราไม่โกรธ ไม่เกลียด เรามีเวรกรรมต่อกันก็ให้อภัยกัน อโหสิกันเสีย อย่างที่ท่านมาอโหสิกรรม ณ บัดนี้ ให้อภัยซึ่งกันและกัน พอให้อภัยได้ ท่านก็แผ่เมตตาได้ ถ้าท่านมีอารมณ์ค้างอยู่ในใจ เสียสัจจะ ผูกใจโกรธ อิจฉาริษยา อาสวะไม่สิ้น ไหนเลยล่ะ ท่านจะแผ่เมตตาออกได้ เราจึงไม่พ้นเวรพ้นกรรมในข้อนี้ การอโหสิกรรมไม่ใช่ทำง่าย’
จากข้อความข้างต้น หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม แนะนำให้สวดมนต์ไหว้พระก่อน เพื่อสร้างความสงบเย็นใจ จิตมีสมาธิ และทำใจให้เป็นกุศลเสียก่อน จึงค่อยแผ่เมตตา เพราะหากมีอารมณ์ที่ไม่เป็นกุศลที่ยังค้างอยู่ในใจ การแผ่เมตตาจะไม่ได้ผล
สวดมนต์ ไหว้พระ แผ่เมตตา อโหสิกรรม
สำหรับบทสวดมนต์ไหว้พระนั้น ในบทความนี้ขอเสนอลำดับการสวดมนต์ตามที่หลวงพ่อจรัญ ได้แนะนำไว้ คือ มีการสวดตามลำดับดังนี้
- กราบพระรัตนตรัย
- นมัสการพระพุทธเจ้า (นโม)
- ไตรสรณคมน์
- สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย (อิติปิโส)
- พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง)
- มหาการุณิโก
- อิติปิโส (สวดเท่าอายุ + 1 จบ)
- แผ่เมตตา
- กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศล
ลำดับบทสวดมนต์ดังกล่าว ท่านแนะนำให้สวดประจำทุกวัน แต่หากยังมีเวลา ก็สามารถสวดแผ่กุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ซึ่งเป็นฉบับของคณะสงฆ์วัดตาลเอน เพื่อขจัดอุปสรรคปัญหาต่างๆในชีวิต ตามคลิปด้านล่างนี้
บทแผ่เมตตาให้ตัวเอง แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
การแผ่เมตตาให้กับผู้ที่เป็นศัตรู เจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่มีความขัดแย้งกันนั้น อาจจะทำได้ยากและรู้สึกว่าฝืนใจ ดังที่ได้ยกคำกล่าวของหลวงพ่อจรัญไว้ข้างต้นว่า หากจิตไม่เป็นกุศลการแผ่เมตตาจะไม่เป็นผล
ในประเด็นนี้ บางท่านจึงบอกว่าควรจะแผ่ให้ตนเองเสียก่อน จากนั้นจึงแผ่ไปยังญาติมิตรหรือบุคคลที่ท่านรู้สึกดีด้วย เมื่อมีความสงบเป็นกุศล จึงขออโหสิกรรม และแผ่เมตตาเป็นลำดับถัดไป
การสวดมนต์แผ่เมตตา นั้นทำได้ในเวลาเช้า หรือจะทำต่อจากการสวดมนต์ก่อนนอนก็ได้ การเจริญเมตตานั้นมีอานิสงส์ ตามที่บันทึกไว้ ในข้อความจาก
บาลีแห่งเอกธรรม เอก. อํ. (๕๔-๕๖)
ตบ. ๒๐ : ๑๒ ตท. ๒๐ : ๑๐
ตอ. G.S. ๑ : ๘-๙‘
ดังต่อไปนี้
‘ ปัญหา การเจริญเมตตาจิต มีอานิสงส์อย่างไร? ’
‘ พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุซ่องเสพเมตตาจิต…. เจริญเมตตาจิต… ใส่ใจเมตตาจิต… แม้ชั่วเวลาเพียงลัดนิ้วมือเดียวเท่านั้น ภิกษุนี้เรากล่าวว่าอยู่ไม่เหินห่างจากฌาน ทำตามคำสอนของพระศาสดา ปฏิบัติตามโอวาท ไม่ฉันบิณฑบาตของชาวแว่นแคว้นเปล่า จะกล่าวไปใยถึงผู้ทำเมตตาจิตให้มากเล่า ?”‘’
ข้อคิดส่งท้าย
‘สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ อโหสิกรรมเสียก่อน และเราก็แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่เราไปสร้างกรรมมาครั้งอดีต รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง รู้เท่าทันหรือไม่เท่าทันก็ตาม ถ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์เช่นนี้แล้ว ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า มันก็จะน้อยลงไป ’
จากหนังสือกฎแห่งกรรมเล่ม ๓ เรื่อง กรรมฐานแก้กรรมได้อย่างไร โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์