คลินิกทันตกรรมรีนิว ปัตตานี
ทำฟัน ศูนย์ทันตกรรมแบบครบวงจร ให้บริการทางทันตกรรมทั่วไป ทำฟัน จัดฟัน และทันตกรรมรากเทียม วีเนียร์ ทันตกรรมประดิษฐ์ ศัลยกรรมช่องปาก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สะอาดปลอดภัย คุณภาพมาตรฐานระดับสากล
การจัดฟัน ถือเป็นทันตกรรมพื้นฐานของมีรอยยิ้มที่สวยงาม โดยทางคลินิกจะช่วยดูและวางแผน ว่าการจัดฟันแบบไหน เหมาะกับแต่ล่ะช่วงวัย รวมถึง ลักษณะความต้องการ เพื่อให้การจัดฟันมีความสะดวก และเหมาะกับความต้องการของแต่ล่ะบุคคล เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีการจัดฟันได้พัฒนามากขึ้นทำให้มีทางเลือกในการจัดฟันมากมาย เลือกประเภทการจัดฟันที่เหมาะสมกับตัวคุณ
จัดฟัน คือ อะไร
การจัดฟัน คือ การรักษาฟันแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ ให้กลับมาเรียงตัวเป็นระเบียบ สวยงาม โดยการวางแผนการแก้ปัญหาฟันไม่เรียง โดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ปรับรูปฟันให้ขยับไปตามตำแหน่งที่สวยงาม และ เหมาะสม มีผลให้รูปปาก เเละโครงหน้าดูที่ไม่สมส่วน กลับมาดูดีขึ้นได้ ปัญหาที่สามารถพบเจอทั่วไป ได้แก่ ฟันซ้อนเก, ฟันบิดเบี้ยว, ฟันยื่น ทำให้ดูปากอูม และ การสบฟันลึก เป็นต้น
การจัดฟัน ต้องทำโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง ต้องอาศัยเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจัดฟันโดยเฉพาะ ทีมทันตแพทย์จัดฟันจะเริ่มจากวินิจฉัย รักษา และป้องกันความผิดปกติของฟัน โดย คนไข้สามารถเลือกใช้เครื่องมือทันตกรรมแบบติดแน่น (Dental braces) อย่างเช่น การจัดฟันแบบติดเหล็ก หรือ จัดฟันระบบ Damon หรือไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ หรือที่เรียกว่าการ จัดฟันใส clear aligner หรือ จัดฟันแบบใส Invisalign (Align Technology)
จัดฟัน ดัดฟัน จัดฟันช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- การจัดฟัน ช่วยปรับแนวฟันให้เรียงตัวเป็นระเบียบ และช่วยรักษาสุขภาพช่องปากดีขึ้น ลดปัญหาฟันผุได้ เพราะฟันที่เรียงตัวไม่เป็นระเบียบนี้ เป็นที่มาของเศษอาหาร ที่ไปอยู่ตามซอกหลืบของฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของฟันผุ
- เมื่อฟันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็ทำให้การดูเเลรักษาฟันก็เป็นเรื่องง่ายขึ้น การดูเเลฟันให้ดีเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้คุณรักษาฟันให้อยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต
- การดัดฟันช่วยปรับรูปหน้าให้เข้าที่ ดูสมส่วนขึ้น จากคนที่ประสบปัญหาฟันสบลึกดูฟันล่างยื่น หรือฟันเหยินไม่กล้าหัวเราะหรือยิ้มได้เต็มที่ ก็กลับมามั่นใจ จากรอยยิ้มเเละฟันที่สวยงามได้
จัดฟันมีกี่แบบ เครื่องมือจัดฟันมีกี่ประเภท
การจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน คือ การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ และ การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ โดยใน 2 ประเภทนี้แบ่งคร่าวๆ ออกเป็นทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน
- การจัดฟันแบบโลหะติดแน่น (METAL BRACKET) – จัดฟันแบบติดเครื่องมือ
- การจัดฟันแบบ DAMON – จัดฟันแบบติดเครื่องมือ
- จัดฟันใส INVISALIGN – จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ
- จัดฟันใส CLEAR ALIGNER – จัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ
รีเทนเนอร์ คืออะไร ?
“รีเทนเนอร์” (Retainers) เป็นเครื่องมือคงสภาพฟันหลังการจัดฟัน เพื่อให้ฟันและเนื้อเยื่อรอบๆได้ปรับตัวกับตำแหน่งใหม่ในช่องปาก เพื่อป้องกันการเคลื่อนกลับไปสู่ตำแหน่งเดิมของฟัน ซึ่งการคืนกลับของฟันจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นกับอายุ, ลักษณะการสบฟัน และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งมีโอกาสคืนกลับหรือเคลื่อนได้ตลอดชีวิตโดยไม่สามารถการันตีได้ ดังนั้นการใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพการจัดฟันให้สวยงามและคงอยู่ไปนานๆ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากไม่แพ้ขั้นตอนการจัดฟัน ที่ต้องเห็นความสำคัญและให้ความร่วมมือในการใส่อย่างเคร่งครัด
กรณีใด ที่จำเป็นต้องใส่รีเทนเนอร์ ?
สำหรับใช้เป็นเครื่องมือคงสภาพฟันหลังการจัดฟัน
ทำรีเทนเนอร์ มีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร ?
รีเทนเนอร์จะถูกออกแบบแตกต่างกันไป ขึ้นกับสภาพลักษณะการสบฟันของแต่ละคน โดยรีเทนเนอร์สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่
รีเทนเนอร์แบบลวด
รีเทนเนอร์แบบลวด เป็นรีเทนเนอร์ที่ใช้ลวดธรรมดาในการคงสภาพฟัน โดยไม่มีอะคลิลิกหุ้มลวด โดยมีข้อดีคือ สามารถปรับได้ เช่น กรณีที่ลืมใส่จนฟันขยับนิดๆ หรือใส่นานๆแล้วเริ่มหลวม สามารถให้ทันตแพทย์ปรับให้เข้าที่ได้ นอกจากนี้กรณีถ้าฟันห่างและมีช่องว่างเล็กๆก็สามารถปรับ บีบลวดเพื่อปิดช่องว่างได้เล็กน้อยเช่นกัน แต่กรณีถ้าช่องว่างใหญ่มากๆก็อาจบีบไม่ไหว ต้องพิจารณาจัดฟันใหม่หรืออุดเติมฟัน
สำหรับข้อเสียคือ มีฐานคลุมเพดานทำให้รู้สึกรำคาญและพูดไม่ชัด ซึ่งก็เป็นปกติของการใส่รีเทนเนอร์แบบนี้ช่วงแรก เนื่องจากร่างกายยังปรับตัวไม่ได้ ประมาณ 2-3 สัปดาห์เมื่อร่างกายปรับตัวได้ก็จะใส่ได้สบายขึ้น ที่สำคัญควรฝึกออกเสียงให้ชัดด้วย นอกจากนี้ รีเทนเนอร์แบบลวดจะล็อคฟันไม่หนาแน่นมาก เมื่อเทียบกับแบบท่อ (มีอะคลิลิกหุ้ม) จึงป้องกันฟันหมุนได้น้อยกว่า
รีเทนเนอร์แบบท่อสี
คำว่าท่อสี เป็นศัพท์ให้เข้าใจง่าย หมายถึงรีเทนเนอร์แบบลวด ที่มีการหุ้มอะคลิลิกบริเวณลวด เพื่อล็อคฟันให้หนาแน่นมากขึ้น ซึ่งกรณีถ้าไม่ชอบให้มีสี ก็สามารถเลือกเป็นสีใสได้ โดยมีข้อดี คือสามารถปรับได้เมื่อหลวม และที่สำคัญเนื่องจากมีอะคลิลิกหุ้มลวด ทำให้การล็อคฟันหนาแน่นมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ฟันเคยซ้อนเก หรือหมุนมากๆ ไม่อยากให้ฟันบิดกลับไปที่เดิม แต่ในฟันหลังไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่ เราควรปล่อยให้ฟันหลังอยู่สบายๆตามธรรมชาติ เพื่อที่จะได้สบกันได้ดี แถมอาจทำให้ถอดเข้าออกยากด้วย
สำหรับข้อเสียคือ รู้สึกรำคาญ/พูดไม่ชัด น้ำลายเยอะ ซึ่งเป็นปกติของการใส่รีเทนเนอร์เหมือนกันกับแบบลวด อาจจะรู้สึกหนาๆ ที่ริมฝีปากนิดๆ เพราะมีความหนาของอะคลิลิก ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เมื่อร่างกายปรับตัวได้ก็จะใส่ได้สบายขึ้น ที่สำคัญ อย่าลืมฝึกออกเสียงให้ชัดด้วย ส่วนกรณีถ้าฟันห่าง มีช่องว่างเล็กๆ การปรับ บีบลวด เพื่อปิดช่องว่างจะทำได้ยากกว่าแบบลวด เพราะ อะคลิลิกจะไปกันไม่ให้ฟันขยับ ดังนั้นจะเหมาะสำหรับการป้องกันฟันไม่ให้หมุนมากกว่าการบีบปิดช่องว่าง
รีเทนเนอร์แบบใส
เป็นรีเทนเนอร์ที่ทำจากพลาสติกใสคุณภาพดี คลุมฟันทุกซี่ โดยมีข้อดี คือใส่สบาย เพราะไม่มีความหนาบริเวณเพดานให้เกะกะลิ้น จึงทำให้พูดชัดกว่า ที่สำคัญมองแทบไม่เห็นว่ากำลังใส่รีเทนเนอร์อยู่ นอกจากนี้เนื่องจากรีเทนเนอร์แบบนี้คลุมฟันทุกด้านโดยรอบ ทำให้ป้องกันฟันหมุนได้ดีมาก
สำหรับข้อเสีย คือ ปรับไม่ได้ ซึ่งกรณีถ้าลืมใส่แล้วฟันขยับนิดนึง อาจจะทำให้ใส่ไม่ลง เพราะฉะนั้นจึงต้องมีวินัยมาก นอกจากนี้รีเทนเนอร์แบบใส จะมีความหนาด้านบดเคี้ยว ทำให้เวลากัดลงมาอาจจะรู้สึกสูง จึงไม่ค่อยเหมาะในเคสที่ฟันหลังไม่ค่อยสบกัน เพราะความหนาทำให้ฟันลงมาสบกันตามธรรมชาติได้ช้าลง
รีเทนเนอร์แบบติดแน่น
เป็นรีเทนเนอร์แบบติดแน่นที่ทำจากลวดเส้นเล็กๆ ยึดอยู่ด้านในฟัน โดยมักจะยึดเฉพาะบริเวณฟันหน้าบนหรือล่าง ข้อดีคือมีประสิทธิภาพในการคงสภาพฟันสูง แต่ข้อเสียคือทำความสะอาดยากและอาจเกิดปัญหาหลุดหักได้
ข้อควรปฏิบัติในการใส่รีเทนเนอร์
-หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน ต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี โดยถอดได้เฉพาะเวลาทานข้าวและเวลาแปรงฟันเท่านั้น เนื่องจากช่วงระยะเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่ฟันยังปรับตัวไม่ได้และอาจเคลื่อนตัวกลับสู่ตำแหน่งเดิมได้อย่างรวดเร็วและตลอดเวลา
-หลังจากปีแรก อาจค่อยๆลดเวลาการใส่รีเทนเนอร์ เป็นช่วงกลางวัน (3-4 วันต่อสัปดาห์) และใส่ตอนกลางคืนทุกคืน เป็นระยะเวลา 6 เดือน และหลังจากนั้น ใส่เฉพาะตอนกลางคืนให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
-ช่วงแรกของการใส่รีเทนเนอร์ อาจรู้สึกรำคาญ, ตึงบริเวณฟัน, น้ำลายเยอะผิดปกติ, พูดไม่ชัด ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะร่างกายยังไม่คุ้นชิน อาการจะค่อยๆดีขึ้น ใน 2-3 สัปดาห์ เมื่อร่างกายปรับตัวได้แล้ว
-การถอดรีเทนเนอร์ระหว่างวัน ควรเก็บใส่กล่องให้มิดชิด ไม่ควรห่อกระดาษทิชชู่ เพราะอาจสูญหาย หรือถูกทับแตกได้
-การทำความสะอาดรีเทนเนอร์ ให้ใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดทุกวัน โดยมีภาชนะรอง เพื่อป้องกันการหล่นแตก สามารถใช้ยาสีฟัน น้ำสบู่ หรือน้ำเปล่าในการทำความสะอาดได้ และสามารถแช่เม็ดฟู่สำหรับทำความสะอาดฟันปลอมได้ (1-2 ครั้งต่อสัปดาห์) มิฉะนั้นอาจมีคราบสกปรกและหินปูนเกาะรีเทนเนอร์
-หลีกเลี่ยงการแช่รีเทนเนอร์ในน้ำอุ่น/น้ำร้อน หรือน้ำยาบ้วนปากที่ผสมแอลกอฮอล์ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำร้อนในขณะใส่รีเทนเนอร์ เนื่องจากอุณหภูมิร้อนอาจส่งผลให้รีเทนเนอร์เปลี่ยนรูปร่างและทำให้ใส่ไม่เข้าที่ได้
-หลีกเลี่ยงการใช้ลิ้นดุน กระดกรีเทนเนอร์เล่นไปมา เพราะจะทำให้รีเทนเนอร์หลวม และประสิทธิภาพในการคงสภาพฟันลดลง
-กรณีรีเทนเนอร์หลวมจนไม่สามารถยึดเกาะได้ ควรรีบมาพบทันตแพทย์ เพื่อปรับแต่งให้ได้ขนาดที่พอดี ไม่ควรดัดหรือปรับลวดรีเทนเนอร์ด้วยตนเอง เพราะอาจจะทำให้ใส่รีเทนเนอร์ไม่ลง หรือส่งผลต่อตำแหน่งฟันได้
-เมื่อรีเทนเนอร์หัก ชำรุด หรือสูญหาย ให้รีบมาพบทันตแพทย์เพื่อทำรีเทนเนอร์ชุดใหม่ทันที เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวกลับของฟัน
สนใจติดต่อ
☎️ : 073333335
: 0617518311
วัน – เวลาทำการ
✅ จันทร์ – พฤหัสฯ เปิด 09.30 – 20.00 น.
❌ ปิดทุกวัน ศุกร์
✅ เสาร์ – อาทิตย์ เปิด 09.00 – 20.00 น.
ช่องปากสุขภาพดี ยิ้มสวย ต้องที่นี่